วิธีการใช้งานโปรแกรมบีบอัดไฟล์ Winzip

17.12.53

วิธีการใช้งานโปรแกรมบีบอัดไฟล์
Winzip


โปรแกรม ยอดนิยมและถูกนำมาใช้งานกันอย่างแพร่หลายทั้งในอินเทอร์เน็ต และในการใช้ งานปกติในชีวิตประจำวัน ด้วยคุณสมบัติที่ดีเด่นในการบีบอัดไฟล์ให้มีขนาดเล็ก สามารถเก็บไฟล์ แบบต่อแผ่นได้ในกรณีที่ใช้ดิสค์เก็ตแผ่นเดียวไม่พอดีกับขนาดไฟล์ จากเวอร์ชั่นที่ทำงานบนดอส จนขณะนี้ตัวล่าสุดเป็น Win Zip 7.0 ใช้งานบน Windows 95/98 ซึ่งเพิ่มความง่ายในการใช้งาน มากยิ่งขึ้น ไม่ต้องจดจำคำสั่งพิเศษที่ต้องคีย์ลงไปในสมัยเป็นโปรแกรมบนดอส จ๊าบจริง ๆ ครับ มีบริการในหน้าดาวน์โหลด
เมื่อได้มาแล้วก็เปิด Windows Explorer ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ชื่อ Winzip70.exe ได้เลยครับ เพราะเป็นไฟล์แบบติดตั้งตัวเองอัตโนมัติ คลิกที่ Setup
Winzip 7.0 Setup
โปรแกรมจะติดตั้งลงใน C:\Program Files\Winzip เองโดยอัตโนมัติ
Winzip Setup-2
ถ้า หากมีการติดตั้งเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ไว้แล้ว ก็จะมีกรอบโต้ตอบให้ยืนยันว่าจะติดตั้งทับ หรือไม่ ให้ตอบตกลงติดตั้งทับได้เลย ซึ่งโปรแกรมจะใช้ License ตัวเดียวกับเวอร์ชั่นเดิม (ถ้ามี) ถ้าเป็นการติดตั้งใหม่ก็จะมีกรอบโต้ตอบดังภาพข้างล่างนี้ ให้คลิกที่ Next
Winzip Setup-3
จะมีกรอบโต้ตอบให้ยืนยันในเรื่องการยอมรับลิขสิทธิ์ ตอบ Yes เลยครับ
License Agreement
จะเข้าสู่กรอบเลือกรูปแบบหน้าตาของโปรแกรม ให้เลือกแบบ Start with Winzip Classic แล้วคลิก Next
WinZip Setup-5
จะเข้าสูกรอบโต้ตอบการเลือกวิธีติดตั้ง ให้เลือกที่ Express setup (recommended) คลิกที่ Next
WinZip Setup-6
โปรแกรมจะทำการติดตั้งและเห็นหน้าต่าง popup โฟลเดอร์โปรแกรม ให้ปิดหน้าต่างนี้ ได้เลย
WinZip Explorer Programs
คลิก Finish ที่กรอบแสดงเสร็จสิ้นการติดตั้ง
WinZip Setup-8
จะมีกรอบ Winzip Tip of the Day ซึ่งจะแสดงรายละเอียดวิธีการใช้งานแบบต่าง ๆ ให้คุณ ได้ศึกษา ซึ่งจะมีทางเลือกให้คุณอยู่ 3 ทาง คือ
    1. แสดง Tip ใหม่ทุกครั้งที่เปิด Winzip
    2. แสดง Tip เมื่อเปิดโปรแกรมไว้แต่ยังไม่ได้ใช้งาน
    3. หรือไม่ต้องแสดง Tip อีกเลย
WinZip Tip of the Day
คลิกที่ Close จะเห็นหน้าตาของโปรแกรม Winzip 7.0 ดังภาพข้างล่าง สังเกตจะมีคำว่า unregistered อยู่ ก็ให้คุณจัดการใช้โปรแกรม Winzip_key เพื่อหาตัวเลข register จากชื่อที่คุณต้องการ
WinZip Unregistered
วิธีการใช้ก็ง่ายมากครับ เพียงดับเบิ้ลคลิกที่ชื่อไฟล์ winz_key.exe จะปรากฏหน้าต่าง ขึ้นมาให้เราเติมชื่อลงในช่อง Name
WinZip Key Generateor
จะเห็นว่าตัวเลขในช่อง Serial Numbers จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามจำนวนตัวอักษรที่ เพิ่มขึ้น เมื่อเติมชื่อที่ต้องการครบทุกตัวอักษรแล้วให้ copy เอาตัวเลข Serial Numbers ในช่อง Winzip ไว้ แล้วเปิดโปรแกรม Winzip คลิกที่ Help -> About WinZip
จะมีกรอบโต้ตอบขึ้นมาให้เลือกคลิกที่ปุ่ม Register
About WinZip
กรอกชื่อที่คุณต้องการ และวางหมายเลข Register ลงในช่อง คลิก OK ก็จะสามารถใช้ โปรแกรมนี้ได้แบบไม่หมดอายุครับ
Register WinZip
ในการใช้งานเพื่อคลายไฟล์ *.zip ก็เพียงแต่ดับเบิ้ลคลิกที่ชื่อไฟล์นั้น ๆ โปรแกรม Winzip จะถูกเรียกขึ้นมาโดยอัตโนมัติ พร้อมกับการคลายไฟล์ออกมาให้เห็นรายชื่อไฟล์ภายในทันที คลิกที่ปุ่ม Extract เพื่อคลายไฟล์ไว้ในโฟลเดอร์ที่ต้องการ
WinZip Open File
ถ้าต้องการสร้างโฟลเดอร์เก็บไฟล์ใหม่ก็เพียงแต่คลิกที่ New Folder กรอกชื่อที่ต้องการ คลิก OK แล้วคลิกที่ Extract ไฟล์ทั้งหมดจะถูกคลายเก็บไว้ที่โฟลเดอร์นั้นทันที ซึ่งคุณจะสามารถใช้ ไฟล์เหล่านั้นได้ตามปกติครับ
Extract File
ในกรณีที่ต้องการบีบอัดไฟล์ก็ทำได้ง่าย ๆ โดยการเปิด Windows Explorer คลิกโฟลเดอร์ ที่เก็บไฟล์ แล้วเลือกไฟล์ที่ต้องการบีบอัดทั้งหมด (ตามต้องการ) คลิกที่เมนู File > Add to Zip
Add Files to Zip
จะเกิดกรอบโต้ตอบ Add ให้คุณระบุเส้นทาง (Path) ที่จะเก็บไฟล์ และชื่อไฟล์ *.zip ถ้าคุณ เลือกที่ไดรว์ A:\ สังเกตที่ช่อง Multiple disk spanning จะเปลี่ยนเป็น Automatic ทันที เพื่อให้มี การต่อแผ่น ในกรณีที่ไฟล์ใหญ่เกินกว่าที่จะเก็บได้ในแผ่นดิสค์เก็ตแผ่นเดียว จากนั้นให้คลิกเลือก เงื่อนไขต่าง ๆ ที่คุณต้องการ เช่น เก็บทั้ง Sub folder การกำหนดชื่อไฟล์แบบ 8.3 (สำหรับการ คลายในดอส) การใส่ Password เป็นต้น แล้วคลิก Add โปรแกรมจะทำการบีบอัดไฟล์ในทันที
Add files to Zip-2
ถ้า บีบอัดไฟล์ทั้งหมดลงในแผ่นดิสค์เก็ตแผ่นเดียวไม่พอ จะมีกรอบบอกให้ใส่แผ่นที่สอง สาม สี่ เรื่อยไป คุณสามารถคลิกเลือกให้โปรแกรมลบไฟล์ที่อาจมีในแผ่นดิสค์เก็ตทิ้ง เสียก่อน การเขียนก็ได้
Multiple Expand
เมื่อเสร็จสิ้นการบีบอัดไฟล์แล้ว จะมีหน้าต่างโปรแกรม Winzip แสดงรายชื่อไฟล์ที่ถูก บีบอัดทั้งหมด และชื่อไฟล์ *.zip บนไตเติ้ลบาร์
Finished
ง่าย มากใช่ไหมครับ ลองเอาไปใช้ประโยชน์ดูนะครับ แล้วคุณจะติดใจ เทคนิคในการต่อ แผ่นเพื่อความชัวร์ ป้องกันแผ่นชำรุด คุณควรฟอร์แมตแผ่นแบบ full และใช้โปรแกรม Scandisk หรือ Disk Doctor หรือตัวอื่นๆ ตรวจสอบแผ่นและ mark bad sector เสียก่อนครับ (ถ้าเป็นไปได้ ควรงดเว้นแผ่นที่มี bad sector เลยดีกว่า)


โดย: www.easyhome.in.th

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม